3.1K - 3.1KShares
9 เทคนิคเก่งภาษาอังกฤษให้คล่ องและเร็ว!
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำและพูดุถึ
หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า
“เก่งภาษา 50 ล้าน” (หนังสือเล่มนี้ ติดอันดับ 1 Bestseller ติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน)
เขียนโดยพี่ที่ผมเคารพ… บัณฑิต อึ้งรังษี นักเขียนอันดับต้นของเมืองไ
หนังสือเล่มนี้สรุปไอเดียทุ
สำคัญคือ หนังสือเล่มนี้สามารถช่วยให
ผมเลยขอถือโอกาสนี้มาแชร์ “ความรู้ชั้นเลิศ” ที่ผมได้จากหนังสือเล่มนี้ใ
หนังสือเล่มนี้ แบ่งเนื้อหาออกเป็นสองส่วน คือ A Winning Mindset และ Method
วันนี้ ผมขอพูดถึงตอนแรก โดยขอสรุปเป็น…
———- “9 เทคนิคเก่งภาษา (ทุกภาษา) ได้ง่ายๆ แค่ปรับ Mindset” ———-
Mindset.. เรียกสั้นๆได้ว่า “หลักคิด”
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหร
หลักคิดสำคัญในการเรียนภาษา
…ไม่มีใคร หรืออะไรช่วยให้เราเก่งภาษา
ต่อไปนี้คือ ไอเดียสำคัญในการปรับ Mindset จากหนังสือ “เก่งภาษา 50 ล้าน” ที่ผมสรุปสำคัญๆมาสั้นๆตามม
————————–
#1 อยากเก่งภาษา ต้องมีแรงจูงใจ
– “Motivation fuels the engine.” –
ตอบตัวเองให้ได้ว่า “เรียนภาษาไปทำไม”
เมื่อมีเหตุผลที่จูงใจมากพอ
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
…สำหรับผมแล้ว ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุ
แต่ก่อน ผมแทบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เล
จนพัฒนาตัวเองได้ จากแรงจูงใจที่สร้างให้กับต
“คุยกับฝรั่งได้ มันเท่ห์ดี เราเองก็ทำได้หนิ…เอาวะ..
จงอย่าดูถูกพลังขับเคลื่อนจ
————————–
#2 ภาษาไม่ยาก และคุณเองก็เก่งได้
– Believe in yourself. –
เลิกบอกตัวเองว่า “ฉันไม่เก่งภาษา สู้คนอื่นไม่ได้หรอก”
แล้วให้พลังความเชื่อในตัวเ
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
…ผมเองมักบอกตัวเองเสมอใน
ความเชื่อคือจุดเริ่มต้นของ
เราไม่มีวันสำเร็จในสิ่งที่
วันที่ผมเริ่มลุยฝึกภาษาอัง
“You can and you will.” (No excuses!)
————————–
#3 ตั้งเป้าให้สูงเข้าไว้
– Aim high –
ก่อนเรียนภาษา เราควรตั้งเป้าให้ตัวเองว่า
ตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย ไม่เวอร์ไป และรู้ว่าทำได้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ตัว
ถึงเราจะไปไม่ถึงเป้า 100 เปอร์เซนต์ แต่ผลที่ได้คือ “เราเดินหน้าไปสู่ร้อยทุกวั
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
…เป้าหมายอันหนึ่งที่ผมเค
“การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษโ
หลังจากที่ผมตั้งเป้านี้ขึ้
เพราะผมรู้ว่า ไม่มีทางหรอกที่ผมจะรู้ศัพท
ผมจึงเลือกสร้างทักษะการเดา
จนวันนี้ ผมสามารถอ่านหนังสือภาษาอัง
ไม่ใช่เพราะรู้ศัพท์ทุกคำ..
…และนี่เอง คือ เหตุผลที่ทุกคนควรมีเป้าหมา
————————–
#4 หา Idol เก่งภาษา
– Find Role Models –
การมี idol ที่ชื่นชมด้านความเก่งภาษา
จะช่วยเราผลักดันตัวเองให้เ
…แค่นึกภาพตัวเองพูดได้คล
แค่นี้ก็ช่วยให้ความรู้สึกด
Tips: ลองหา idol ที่เป็นคนไทย สำเนียงภาษาอังกฤษดีเหมือนเ
แต่ไม่เคยไปเรียนต่อ หรือ อยู่ต่างประเทศเลย อาศัยแค่การฝึกภาษาอังกฤษด้
รับรองว่าจะมีกำลังใจให้ตัว
และไม่ต้องมีข้ออ้างอีกด้วย
————————–
#5 ภาษาต้องสนุก
– Learning should be fun. –
การเรียนภาษาต้องสนุก ไม่เครียด และไม่น่าเบื่อ
ยิ่งสนุก >> ยิ่งอยากเรียน >> ยิ่งเก่งขึ้น
ยิ่งจำ >> ยิ่งหมดสนุก >> ยิ่งลืมง่าย
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
…ผมเองเคยเป็น “นักท่อง” มาตอนสมัยเรียน
และพบว่าที่ท่องมา ลืมเกือบหมดหลังสอบ และหลังเรียนจบ
แถมเอาสิ่งที่จำนั้น ใช้มาช่วยสื่อสารในชีวิตจริ
ผมเลยตัดสินใจ “เลิกท่อง”
แล้วหันมา “คลุกคลี” กับภาษาอังกฤษผ่านสื่อต่างๆ
ผมพบว่าเป็นวิธีที่ดีและเร็
แถมไม่ฝืนธรรมชาติและไม่รู้
แนะนำให้ทุกคนลองทำตามกันดู
————————–
#6 ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม
– The more you practice, the easier it gets. –
การฝึกฝนบ่อยๆ คือหัวใจของการเก่งภาษาให้ค
คนที่เก่งภาษา ไม่ใช่ “ผู้ที่มีความจำเป็นเลิศ”
แต่คือ “ผู้ที่มีชั่วโมงบินสูง”
(คำแนะนำส่วนตัวแบบง่ายๆ)
อยากฟังให้ออก…ฟังให้เยอะ
อยากพูดให้คล่อง…พูดให้เย
อยากเขียนให้ดี…เขียนให้เ
อยากอ่านให้รู้เรื่อง…อ่า
————————–
#7 ปูพื้นฐานภาษาด้วยการฟังและ
– Input equals Output –
เริ่มปูพื้นฐานภาษาด้วยการฟ
แล้วทักษะการพูดและเขียนจะพ
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
…ผมเอง แต่ก่อนเคยมีปัญหาด้านการเข
จนหลังจากที่เริ่มอ่านหนังส
ทักษะการเขียน และพื้นฐานแกรมม่าก็ดีขึ้นเ
และนี่เองคือ เคล็ดลับอีกอย่างของการเก่ง
“อ่านให้เยอะ + เขียนให้เยอะ”
————————–
#8 ผิดได้ ไม่เป็นไร
– Mistakes are inevitable –
เป้าหมายของการเรียนภาษา คือ “การสื่อสารให้เข้าใจ”
อย่ามองภาษา เป็นเหมือนข้อสอบที่มี “ถูกและผิด”
จนทำให้กลัวและ “อายที่จะผิด”
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
…สมัยก่อน ตอนผมฝึกพูดภาษาอังกฤษใหม่ๆ
จะเกิดอาการ “เกร็ง” พูดออกมาเป็นเหมือนภาษาเขีย
เพราะมัวแต่ “กลัวผิด” และนึกแต่ประโยคที่เคยเรียน
จนวันหนึ่ง ก็พบกับความจริงที่ยังคงใช้
“พูดไปเถอะ พูดแบบไม่ต้องคิดมากด้วยนะ ผิดได้ผิดไป.. แค่เขารู้เรื่อง เราก็โคตรเก่งแล้ว!”
————————–
#9 การเรียนภาษา ไม่มีวันสิ้นสุด
– Learning Language is a journey of a lifetime.-
การเรียนภาษา ไม่มีเส้นชัย
แต่คือการเดินทางไปเรื่อยๆ เจอสิ่งใหม่ๆให้พัฒนาและเรี
…จงอย่าหยุดเรียนรู้ และอย่าหยุดฝึกฝน
(ประสบการณ์ส่วนตัว)
หลังจากที่ภาษาเราพัฒนาได้ด
ภาษาเราจะไม่ดิ่งลงเหวไป เวลาที่ห่างหายไป ไม่ได้ใช้ภาษาเป็นเวลานาน
แต่ “ภาษาเราจะถดถอยลง” และจำเป็นจะต้องฟื้นฟู ใช้เวลาปัดฝุ่นใหม่
เทคนิครักษาภาษาไม่ให้ถดถอย
ง่ายๆ ด้วยการคลุกคลีกับสื่อภาษาท
แค่นี้ ภาษาก็จะไม่ห่างไกลจากเรา จนต้องใช้คำว่า “รื้อฟื้น” แล้ว
————————–
ทั้งหมดที่ผมนำมาแชร์กันนี้
ยังไงอย่าลืมกันว่า ไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้ หากไม่มีการลงมือทำ… ได้เวลาเปลี่ยนตัวเองกันแล้วครับ!